ใครๆ ก็ไม่อยากอ้วน ซึ่งวิธีหนึ่งที่ช่วยลดน้ำหนักได้ ก็คือ การออกกำลังกาย
“ปั่นจักรยาน” เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้ลดน้ำหนักได้จริง หรืออย่างน้อยก็ควบคุมน้ำหนักได้ดี ไม่ให้อ้วนง่าย และมีร่างกาย กล้ามเนื้อแข็งแรงสวยงามขึ้นด้วย
สำหรับบางคนที่รู้สึกว่า ปั่นจักรยานเป็นประจำ หรือ ขี่จักรยานมาตั้งนาน แต่ทำไมน้ำหนักไม่ลดซะที เรามีเทคนิคดีๆ มาฝาก เพื่อให้การใช้จักรยานช่วยลดน้ำหนักให้ได้ผลมากขึ้นค่ะ
1. ปั่นให้พอดี ไม่จำเป็นต้องหักโหม
หลายคนเข้าใจว่า ยิ่งปั่นมาก ยิ่งผอมเร็ว แต่กลับไม่ใช่ การออกกำลังกายหักโหมทำให้ร่างกายสูญเสียพลังงานครั้งละมากๆ ในคราวเดียว จึงแสดงผลโดยการหิวมากกว่าเดิม และทำให้กินเข้าไปมากกว่าก่อนจะปั่นจักรยานเสียอีก
2. เลือกอาหาร แต่ไม่ใช่อดอาหาร
อาหารให้พลังงาน หลังปั่นจักรยาน ได้แก่ แป้ง โปรตีน ไขมัน และยังควรรับประทานพืชผัก ผลไม้เพื่อช่วยซ่อมแซมเซลล์ร่างกาย ซึ่งไม่ควรเด็ดขาดที่จะอดอาหาร นอกจากจะไม่ผอม ยังทำให้ร่างกายเสียสมดุล เจ็บป่วยได้ง่ายด้วย
3. กินก่อนปั่นหรือหลังปั่นดี
ไม่จำเป็นต้องกินอาหารตุนไว้มาก ก่อนออกปั่น แค่รองท้องไม่ให้หิวจัดเท่านั้น เมื่อออกกำลังกายเสร็จ ก็ไม่ควรกินทันที เพราะมีผลต่อระบบการย่อย ทำให้จุกได้ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้นแทนเมื่อรู้สึกกระหายหลังปั่น
4. หลีกเลี่ยงเส้นทางปั่นที่เต็มไปด้วยอาหาร
ข้อนี้ นักชิมคงเข้าใจดี ว่าการฝ่าเข้าไปในดงอาหาร ทำให้นักปั่นเสียศูนย์มากไม่น้อย เพราะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความหิว นำไปสู่การพร้อมกินทุกอย่างทันทีหลังปั่น
5. ปั่นแล้วเลี่ยงการแวะซุปเปอร์มาร์เก็ต
ปั่นเสร็จเดินเข้าซุปเปอร์รับแอร์เย็นๆ ย่อมทำให้อยากช็อปสิ่งต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะของกินอร่อยๆ ซึ่งเป็นเหตุผลที่นักปั่นกลับกินเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนไม่ได้ปั่น
6. ลดเครื่องดื่มน้ำตาลและไขมันสูง
การออกกำลังกายด้วยจักรยานทุกวัน ไม่ได้หมายความว่า จะกินไขมันและน้ำตาลได้อย่างเต็มที่ หากรู้สึกอยากกินอะไรหวานๆ เปลี่ยนจากช็อกโกแลตเป็นน้ำตาลจากผลไม้จะดีกว่า
การออกกำลังกายที่ดีควรจัดให้เป็นเวลา เพราะหลังออกกำลังกาย ร่างกายจะแสดงความกระหาย ต้องการน้ำ อาหาร หากปั่นจักรยานเรื่อยๆ นำไปสู่การดื่มด่ำกับรสอร่อยได้ทุกเวลาเช่นกัน และนั่นคือเหตุผลที่ยิ่งปั่นยิ่งอ้วน ดังนั้น อย่าลืมเคล็ดลับทั้ง 6 ข้อนี้ก่อนปั่นและก่อนกินนะคะ
