ความสุขในการเดินของเราไม่เหมือนกัน
การเดิน แม้จะเป็นสิ่งง่ายที่สุดที่ทำได้เพื่อออกกำลังกายหรือเป็นกิจกรรมทางกาย แต่ก็เช่นเดียวกับการออกกำลังกายชนิดอื่น หากทำแล้วไม่มีความสุข ก็จะเป็นการฝืน ทำได้ไม่ดี ไม่มีประสิทธิภาพประสิทธิผลเท่าที่ควร และในที่สุดก็อาจจะเลิกราไป ดังนั้นจุดเริ่มต้นเลยคือเราต้องหาว่ามีความสุขจากการเดินได้ที่ไหน อย่างไร
เราแต่ละคนจะมีความสุขจากการเดินด้วยเหตุผล ด้วยความรู้สึก ที่แตกต่างกันไป
ของเธอความสุขอาจอยู่ที่การทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เดินได้ระยะทางมากขึ้นหรือเดินได้เร็วขึ้น บางคนเพียงแค่ได้สูดอากาศดีๆในตอนเช้าก็สุขแล้ว บางคนสุขที่ได้เดินกับคนรัก กับครอบครัว กับเพื่อนสนิท-คนรู้ใจกัน หรือว่าต่างคนต่างเดิน แต่เดินเสร็จแล้วไปพบปะ คุยกันสนุกสนาน หรือกินอาหารด้วยกัน บางคนสุขที่ได้แต่งชุดเท่ๆ ให้คนอื่นเห็น ได้ถ่ายรูปสวยๆ เอาไปลงไลน์หรือเฟสบุ๊กให้เพื่อนดู หรือสุขที่ได้มีรูปร่างดี ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี จากการได้ออกมาเดิน
สำหรับผมแล้ว เป็นส่วนผสมของหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างหนึ่งคือเส้นทางและสิ่งที่ได้พบเห็นระหว่างทาง ผมจึงไม่ไปเดินซ้ำบ่อยๆ ที่สถานที่ที่คนนิยมไป เช่น สวนสาธารณะ ในกรุงเทพฯ ก็เช่นสวนลุมพินี สวนวชิรเบญจทัศน์ (สวนรถไฟ) สวนสมเด็จฯ สวนจตุจักร สวนหลวง ร.9 ฯลฯ แม้จะไปอยู่บ้างให้ได้พบเพื่อนฝูงนักเดินออกกำลังกายด้วยกันที่ผมเข้าร่วมกลุ่มอยู่ แต่ส่วนใหญ่ผมชอบเดินในละแวกบ้าน เดินเข้าไปในชุมชน ผ่านบ้าน วัด/โบสถ์/มัสยิด โรงเรียน/มหาวิทยาลัย เห็นการใช้ชีวิตของผู้คน เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นไปตามยุคสมัยและกาลเวลา เนื่องจากผมเป็น “คนฝั่งธน(บุรี)” จึงมีเส้นทางให้เดินมากมาย ได้เห็นสิ่งใหม่ๆ มีอะไรให้ตื่นเต้น ประทับใจ เรียนรู้ อยู่เสมอ
บอกได้เลยว่า นอกจากการให้มีสุขภาพดีเป็นพื้นฐานแล้ว ไม่มีการเดินด้วยเหตุผลใดดีที่สุด ไม่มีเหตุผลของความสุขความรู้สึกใดที่เป็นสากล คนที่เดินได้เร็วได้ระยะทางมากๆ ครั้งละกว่าสิบกิโลเมตรไม่ใช่พระเจ้า ไม่ได้วิเศษไปกว่าคนที่เดินได้ครั้งละไม่กี่กิโลเมตร ในขณะเดียวกัน คนที่เดินได้ไม่เร็วไม่ไกลก็ไม่ได้อ่อนด้อยกว่าคนอื่น
เราเอาการเดินของแต่ละคนมาเทียบกันไม่ได้ การเดินเป็นของคนทุกคน ต้นทุนของเราแต่ละคนไม่เท่ากัน และความพอใจที่อยากจะทำของแต่ละคนก็ต่างกันเช่นกัน ขอให้ได้เดิน ได้มีกิจกรรมทางกายขั้นพื้นฐานขั้นต่ำตามที่ร่างกายต้องการ หรือได้ออกกำลังกายให้เกิดผลตามที่เราต้องการเป็นพอ
ไม่ต้องไปน้อยเนื้อต่ำใจ ทำไมเราเดินได้ช้า ทำไมเราเดินไม่เก่ง ได้ไม่เท่าคนอื่น
เดินไปเถอะครับ ถ้าวันนี้ยังสนุกและมีความสุขกับการเดินอยู่ จะครึ่งชั่วโมง จะสามกิโลเมตรไปเรื่อยๆ หรือความเร็วเท่าเดิม ต่อไปอีกนานแค่ไหนก็ตามแต่ ขอแค่ใจเรารู้สึกว่าดีมีความสุขความพอใจกับมันเป็นพอ นั่นแหละคือเราได้คุณค่าของการเดินแล้ว
เดินแล้วต้องมีความสุข ต้องรู้สึกว่าเราอยากลุกขึ้นมาเดินจริงๆ ไม่ใช่ต้องบังคับตัวเอง กดดันตัวเอง และฝืนใจให้ทำ
วันนี้มีความสุขอยู่ที่ตรงนี้ก็ทำต่อไป แต่ถ้าวันใดวันนึงเราเกิดเดินแล้วไม่สนุกขึ้นมา คงต้องกลับมาถามตัวเอง มาหาหนทางกันใหม่แล้วล่ะว่าเดินอย่างไรจึงจะมีความสุข ให้ได้เดินต่อไปจนแก่เฒ่าทีเดียว
กวิน ชุติมา