เดนมาร์ก ถือเป็นเมืองหลวงจักรยานอันดับ 1 ของโลก คือมีสัดส่วนการใช้จักรยานมากที่สุด มีกิจกรรม พื้นที่สาธารณะ ระบบขนส่ง ที่เอื้อต่อการปั่นจักรยานในแทบทุกถนน โดยเฉพาะเมือง โปเคนเฮเกน ที่คนเรียกกันว่า “เมืองหลวงจักรยาน”
แต่กว่าจะประสบความสำเร็จแบบนี้ ก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะแม้จะนิยมจักรยานมาตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1920 เป็นต้นมา กระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 คนหันไปใช้รถยนต์มากขึ้น ไม่ต่างกับเมืองใหญ่ทั่วไป จนเกิดปัญหามลพิษทางอากาศ
เดนมาร์กก็ใช้กว่า 30 ปีทีเดียว ที่สามารถนำเดนมาร์กในฝันของพลเมือง ที่มีอากาศบริสุทธิ์ และคนรักการปั่นจักรยานกลับมาได้อย่างเช่นทุกวันนี้ ด้วยปัจจัยความสำเร็จ 4 ข้อ คือ คือ รัฐบาลเอาจริง, ทำการปั่นให้เป็นวัฒนธรรมประจำชาติ, ใส่ใจกับถนนเพื่อการปั่น, และทำการปั่นจักรยานให้เป็นเรื่องง่าย
พลังความสำเร็จ นำไปสู่ตัวเลขการวัดผลที่น่าพอใจ ซึ่งหน่วยงาน Cycling Embassy of Denmark ได้จัดทำอินโฟกราฟฟิก เผยแพร่ให้เห็นข้อมูลสำคัญๆ เกี่ยวกับการขี่จักรยานในเดนมาร์ก ดังต่อไปนี้
1. ประชากรเดนมาร์ก มีทั้งหมดประมาณ 5.731 ล้านคน สามารถใช้จักรยานเป็น ประมาณ 5.7 ล้านคน (ราว 99%) แบ่งเป็นผู้ชาย 47% ผู้หญิง 53%
2. ผู้ชื่นชอบทริปจักรยาน กว่าร้อยละ 26 ปั่นจักรยานอย่างน้อย 5 กิโลเมตร และอีกร้อยละ 16 ปั่นจนสุดเส้นทาง
3. เฉลี่ยแล้วคนเดนมาร์ก ใช้จักรยานเดินทางประมาณ 1.6 กิโลเมตรต่อวัน โดยแบ่งเป็น ปั่นไปทำงาน 34%, ปั่นไปสถานศึกษา 34%, ปั่นเพื่อออกกำลังกาย 15%, ปั่นไปทำธุระ 15%, ปั่นเล่นเวลาว่าง 37% และปั่นเพื่อธุรกิจ 2%
4. พลเมืองของเดนมาร์ก 3 เมืองใหญ่ที่ใช้จักรยานมากที่สุดคือ 1. เมือง Copenhagen เฉลี่ยการปั่น 3.0 กิโลเมตร/วัน, 2. เมือง Aarhus เฉลี่ย 2.5 กิโลเมตร/วัน และ 3. เมือง Odense เฉลี่ย 2.4 กิโลเมตร/วัน
5. เด็กๆ วัย 11-15 ปี ถึงร้อยละ 49 ที่ใช้จักรยานไปโรงเรียน
6. ถนนในเดนมาร์ก แยกกันอย่างชัดเจน สำหรับพาหนะหลัก 4 ประเภท คือ 1. ทางสำหรับเดิน 2. ทางสำหรับจักรยาน 3. ทางสำหรับจอดรถ และ 4. ทางสำหรับรถยนต์ จึงทำให้การขับขี่ปลอดภัยทุกช่องทาง
ที่มา : http://www.cycling-embassy.dk
